ชื่นชอบพระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมสารีริกธาตุรายปีกำเนิดของปีมะเมีย สักการะพระธาตุมุเตา มากที่สุดของพม่า ไหว้พระธาตุอินทร์แขวน พระบรมธาตุรายปีเกิดของปีจอ
1. พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
ถ้าเกิดจะเอ๋ยถึงการไปท่องเที่ยวประเทศพม่าแล้ว อาจไม่มีใครไม่กล่าวถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง เจดีย์คู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่า ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมียนมาร์ ทั้งคนต่างประเทศที่มาท่องเที่ยวเมียนมาร์ต่างพากันเดินทางเพื่อมาสักกาะระ เป็นเจดีย์ที่แก่โบราณกว่า 2,000 ปี เป็นที่ประดิษฐานพระเกศธาตุ 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า และมีความใหญ่โตยอดเยี่ยม โดยมากถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต ซึ่งเกิดขึ้นจากแรงเชื่อถือของชาวพม่า ร่วมกันบริจาคทรัพย์สินเงินทอง ก่อเสริมเจดีย์ให้สูงใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยมีทองคำแท้ตีแผ่เป็นแผ่นเรียงต่อกันห่อตัวเจดีย์ไว้ โดยมีน้ำหนักถึง 1,100 กก.อย่างยิ่งจริงๆ ทำให้เจดีย์แห่งนี้ มีสีทองสัมฤทธิ์สวยงาม ส่องให้เห็นทั้งยังช่วงเวลากลางวันตอนกลางคืน ยิ่งไปกว่านี้ ด้านบนยอดเจดีย์ยังถูกแต่งแต้มไปด้วยเพชรพลอยอันเลอค่า เปล่งแสงระยิบระยับเห็นมาแต่ไกลผู้คนที่มาท่องเที่ยวประเทศพม่า นอกเหนือจากการที่จะมายกย่องความสวยของพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว ต้องไปนั่งสวดมนต์ไหว้พระตั้งจิตอธิษฐานและกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ในลานสัมฤทธิผล หรือ ลานอธิษฐาน เพราะว่าเชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จจากที่ปรารถนา ต่อด้วยการรดน้ำพระประจำวันกำเนิดที่ตั้งอยู่ทั้งแปดด้านรอบองค์เจดีย์รวมทั้งมีพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้กราบไหว้ขอพร
2. พระบรมธาตุมุเตา หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ
ได้ไปเที่ยวพม่าดูความสวยของเจดีย์ชเวดากองตามแบบฉบับของชาวเมียนมาร์กันแล้ว มุ่งสู่กรุงหงสาวดีชมความสวยงามในต้นแบบมอญกันบ้างที่ พระธาตุมุเตา หรือพระมหาเจดีย์ชเวมอดอ เป็นเจดีย์โบราณอายุโบราณกว่า 2,000 ปีแล้วก็ยังเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเมียนมาร์อีกด้วย ข้างในเจดีย์บรรจุพระเส้นผมธาตุของพระพุทธเจ้า ก่อสร้างมาตั้งแต่ยุคมอญเรืองอำนาจ ทำให้ต้นแบบที่มองเห็น เป็นสถาปัตยกรรมของชาวมอญทุกๆอย่าง โดยมีฉัตรแบบเรียบองค์ระฆังของเจดีย์มีลักษณะแคบเรียว ภายในเป็นก้อนอิฐกลวง โดยมีความหมายทางประวัติศาสตร์คือ ใช้เป็นที่ทำพระราชพิธีเจาะพระหูของพระผู้เป็นเจ้าตะเบ็งชะเวตี้เมื่อครั้งท่านขึ้นครองราชย์ใหม่ๆถัดมาพระผู้เป็นเจ้าบุเรงนองได้สร้างฉัตรมอบเพิ่มเติมหลายชั้น พูดกันว่าก่อนที่พระองค์จะออกทำศึกสงครามครั้งไหน จะทรงมานมัสการพระมหาธาตุนี้ก่อนทุกหน รวมทั้งสมเด็จพระพระราชามหาราชเมื่อครั้งยกพลมาตีหงสาวดีก็ได้เสด็จมานมัสการในที่แห่งนี้เช่นเดียวกัน ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้กำเนิดแผ่นดินไหวบ่อย รวมทั้งครั้งที่หนักที่สุด ทำให้ยอดพระมหาธาตุพังทลายลงมา ซึ่งก็ได้รับการบูรณะและจัดโชว์ซากของพระมหาธาตุองค์เดิมไว้ที่เดิมให้ผู้มาเที่ยวประเทศพม่าได้สักการคู่กันกับองค์ปัจจุบัน ซึ่งนี่เองที่นับว่าเป็นจุดอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์ โดยวิธีการอธิษฐาน ให้เอามือและหน้าผากแตะไปที่พระบรมสารีริกธาตุองค์เดิมที่หัก รวมทั้งอธิษฐาน สิ่งที่ขอก็จะสัมฤทธิ์ผล
3. พระบรมธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจหนโย
พระบรมสารีริกธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจหนโย ในภาษามอญ หมายความว่าหินรูปหัวฤษี เป็นก้อนหินแห่งเลื่อมใส มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่สูง 5.5 เมตร หนักกว่า 600 ตันตั้งอยู่บนผาชัน ถ้าเกิดมองดูด้วยสายตาแล้ว กว่าครึ่งของเนื้อหินนั้นยื่นออกมานอกผาแถมผายังลาดเอียงลงต่ำ ทำให้ดูเหมือนก้อนหินวางอยู่อย่างล่อแหลมเสมือนจะหล่นลงมา กลับตั้งสูงเด่นบนจุดที่สัมผัสกับพื้นดินเพียงแต่น้อยนิด ไม่สะทกสะท้านต่อแรงดึงดูดหรือลมฝนแต่อย่างใด เช่นเดียวกันกับถูกพระอินทร์มาจับห้อยเอาไว้ ก็เลยได้เรียกกันว่า พระบรมธาตุอินทร์ห้อยนอกจากนี้ ยังมีเจดีย์สร้างไว้บนก้อนหิน ได้ถูกจำทดลองเป็นพระเกศแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุรายปีหน้าจอ ที่คนกำเนิดปีนี้จำเป็นต้องไปเที่ยวพม่า เพื่อไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต เชื่อกันว่า หากผู้ใดกันแน่ได้มานมัสการพระบรมธาตุอินทร์ห้อยนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ว่าความสำราญความเจริญ และขอสิ่งใดก็จะได้สมดุจต้องการทุกสิ่ง
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า
แนะนำร้านอาหาร กินเที่ยว สำหรับวัยเก๋า 